วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

รถไฟฟ้า....มาหานะเธอ

ชั่วโมงนี้คงไม่มีภาพยนตร์เรื่องไหน ดังเกิดหน้าเกินตาเรื่องนี้แน่นอน





จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก่อนลงฉายอยู่ที่นักแสดงนำ เคน ธีรเดช ชื่อเสียงและรางวัลต่างๆ ที่เขาได้รับ การันตีฝีมืออยู่แล้ว โดยเฉพาะในด้านที่ว่า'เคน' เป็นชายหนุ่มที่มีผู้หญิงอยากใกล้ชิดมากที่สุดในประเทศไทย! ฉันไม่แปลกใจเลยทันทีที่หนังเรื่องนี้เข้าฉาย ก็สร้างรายได้ถล่มทลาย ทำลายสถิติหนังไทยที่เข้าฉายวันแรกไปสูงถึง 15 ล้านบาท วันนี้ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ตีตั๋วไปดูกับเค้าบ้าง ด้วยมีเวลาว่างประมาณ 3 ชั่วโมงหลังจากไปหาลูกค้าตอนช่วงเช้า แล้วก็รอปฏิบัติภารกิจหนึ่งตอนช่วงเย็น (แล้วจะมาเขียนในบันทึกครั้งหน้าค่ะ)



อย่างที่เกริ่นในตอนแรกว่าจุดเด่นของหนังอยู่ที่พระเอก แต่เมื่อหนังจบลงความรู้สึกของฉันกลับให้ความสนใจและเทคะแนนให้กับนางเอก เหมยลี่ (คริส หอวัง)





ความเป็นธรรมชาติของคริสหรือที่คนสมัยนี้เรียกกันว่า "ไม่เฟค" นั้นน่าจะเป็นคำจำกัดความที่เหมาะสมกับเธอคนนี้มากที่สุด คริสสามารถเปลี่ยนความรู้สึกคนดู จากผู้หญิงที่จืดชืดและมีความสวยในปริมาณจำกัด ให้เป็นความน่ารักแบบติดดินและจริงใจออกแนว "โก๊ะๆ " หน่อย มันทำให้ฉันเห็นว่า ความมีเสน่ห์และความสวยของผู้หญิงคนหนึ่งจะดูดีและมีคุณค่าที่สุดตอนที่เธอ "เป็นตัวของตัวเอง"



ตามท้องเรื่อง หนังดำเนินไปแบบเป็นธรรมชาติที่ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งแอบหลงรักชายในฝัน จะพยายามทำทุกวิถีทางให้เธอปรากฎต่อคลองจักษุของชายคนรักบ้าง แต่กระนั้นเธอก็ไม่ได้เสแสร้งจนหมดความเป็นตัวของตัวเอง เธอยังคงแต่งตัวแบบเดิม ใช้กระเป๋ารองเท้าแบบเดียวกับที่เจอกันครั้งแรกๆ พูดจาขวานผ่าซาก และมีแนวคิดที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ถึงแม้เหมยลี่จะเป็นฝ่ายเดินหน้ารุกพระเอก แต่ก็มิได้โอเว่อถึงขั้นหมดความเป็นหญิงไทย





ในตอนท้ายเรื่องก็มาเฉลยกันว่า ชายหนุ่มที่มีแต่ผู้หญิงกรี๊ดด้วยความเสน่ห์หานั้น ให้ความสำคัญและเฝ้าแอบมองเธอมาตลอด และเค้าก็สารภาพรักกับเธอด้วยการกระทำที่มากกว่าคำพูด นั่นคือการกลับมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง และออกจากเงามืดในยามราตรี มาสู่โลกสว่างในตอนกลางวันเพื่อจะมี "เวลา" ให้กับเหมยลี่ที่เค้ารัก สุดท้ายหนังก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งตามแบบฉบับหนังไทย แต่สิ่งที่ฉันได้กลับบ้านวันนี้นอกจากความบันเทิงแล้วยังได้แง่คิด ในเรื่องการวางตัวของนางเอกเหมยลี่ สาวไทยเชื้อสายจีนที่แม้จะหลงรักและคลั่งไคล้พระเอกแบบออกนอกหน้าจนเป็นประโยคฮิต "ผู้ชายคนนี้พี่ขอ" แต่เธอก็มิได้ประพฤติตัวนอกลู่นอกทางแต่อย่างใด ตรงข้ามกลับใช้ "ความดี" เอาชนะใจพระเอกสุดหล่อได้ ฉันหวังว่านี่น่าจะเป็นตัวอย่างที่วัยรุ่นไทยควรยึดปฏิบัติและเอาเป็น "ไอดอล" หญิงยุคใหม่ ที่ใช้ความดีเอาชนะใจคนรัก รถไฟฟ้า มาหานะเธอจึงจะเป็นหนังไทยอีกเรื่องหนึ่งที่น่าติดตามมากไปกว่าเป็นรถด่วนขบวนสุดท้าย ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป....



ภาพประกอบ http://www.thaicinema.org/kits157rodfai.asp

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น